|
ขอบคุณข้อมูล ประชาชาติธุรกิจ (25 เม.ย. 2560) [1493 Views]
|
"โตโยต้า" เคาะแผนธุรกิจในไทย แย้มทุ่มลงทุนสูงสุดรอบ 50 ปี เล็งตั้งฐานการผลิต R&D "คอมแพ็คคาร์"ส่งออกตลาดโลก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายชินยะ โคเทระ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอร์เตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบ ว่าโตโยต้าได้ก่อตั้งบริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เพื่อผลิตรถยนต์คอมแพ็กต์คาร์ (รถยนต์ขนาดเล็ก) โดยจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตคอมแพ็กต์คาร์เพื่อเป็นศูนย์กลางส่งออกทั่วโลก รวมถึงใช้เป็นฐานการค้นคว้าวิจัย (R&D) และเป็นครั้งแรกของการใช้ประเทศไทยเป็นฮับอีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต คอมแพ็กคาร์
โดยนายโคเทระ ได้อธิบายถึงแผนและทิศทางการผลิตของโตโยต้านับจากนี้ โดยจะโฟกัสไปที่การผลิตคอมแพ็กต์คาร์มากขึ้น อย่างไรก็ตามการผลิตรถยนต์ปิกอัพยังมีเหมือนเดิม แต่จะมีการขยายและแนะนำรถยนต์ระบบไฮบริดรุ่นใหม่เป็นการลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้
โตโยต้าฝากมาบอกว่านับจากนี้ไปบริษัทโตโยต้าจะลงทุนในประเทศไทยมากกว่าเมื่อ50ปีที่ผ่านมา อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะมีการนำแผนการลงทุนของบริษัทในประเทศไทยเข้าสู่การประชุมบอร์ดในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่ออนุมัติโครงการทั้งหมด ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ไม่มีทางไม่เอาเมืองไทยแน่นอน ถึงแม้โตโยต้าจะเพิ่งขยายการผลิตไปยังประเทศอินโดนีเซียแล้วก็ตาม เพราะประเทศไทยไม่ใช่เกาะและสามารถขยายโครงข่ายได้รอบทิศทาง"
นายสมคิดกล่าวว่า สำหรับรอยต่อระหว่างการผลิตรถยนต์ปัจจุบันกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) นั้น บริษัทโตโยต้าจะใช้การผลิตรถยนต์ปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตแบตเตอรี่เพื่อตั้งโรงงานผลิตแบตเตอร ี่เพื่อต่อยอดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งนายโคเทระแสดงความมั่นใจว่าพร้อมลงทุนตามนโยบายของไทยและพอใจสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับมากเนื่องจากปัจจุบันตลาดรถยนต์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
"ในที่สุดแล้วรัฐบาลต้องการให้แพตเทิร์นไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าเพราะเทรนด์โลกกำลังก้าวไปสู่ทิศทางนั้นแน่จึงต้องการให้โตโยต้าทุ่มเทให้กับการผลิตรถยนต์ระบบไฮบริดให้มากที่สุดเพื่อไปสู่ระบบแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต"
นายสมคิดกล่าวว่าสำหรับแผนงานการผลิตบุคลากรของบริษัทโตโยต้าจะให้การสนับสนุนการฝึกฝนบุคลากรและเทคโนโลยีที่จะนำไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และการร่วมมือของมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการผลิตเอ็นจิเนียเพื่อป้อนบริษัทโตโยต้าและเรียนรู้งานและฝึกงานในระบบการผลิตของบริษัทโตโยต้าและต่อไปยังบริษัทไดฮัทสุเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีซึ่งในอนาคตเอ็นจิเนียของบริษัทโตโยต้าจะเป็นคนไทยทั้งหมด
"แต่สิ่งที่จะหารือกับเอกอัคราชทูตญี่ปุ่นในอนาคตคือจะไม่รอให้มหาวิทยาลัยผลิตบุคลากรและป้อนบริษัทโตโยต้าแต่จะผลิตนักศึกษาที่ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัยเพื่อไปต่อยอด เช่น อาชีวะ เข้าไปสู่โปรแกรมของโตโยต้า โดยเป็นพาร์ทเนอร์ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับผู้ประกอบการในการผลิตเทคนิคเชียล วิศวะกร ไม่เน้นดีกรี เน้นการทำงานจริง เพื่อป้อนบุคลากรเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมออโต้ทั้งหมด เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องสร้างขึ้นมาให้ได้"
|