|
ขอบคุณข้อมูล MGR Online (15 พ.ค. 2560) [1167 Views]
|
อุตสาหกรรมยานยนต์หมุนตามโลกในจังหวะที่รวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ภายใต้โจทย์ในการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์เป็นนวัตกรรมเพื่อการขับขี่และโดยสารที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และต่อไปนี้คือเทคโนโลยีบางส่วนที่บริษัทต่างๆ นำไปแสดงในงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ และเจนีวา มอเตอร์โชว์ประจำปีนี้ และจะไปปรากฏในโชว์รูมใกล้บ้านคุณอีกไม่นานเกินรอ
ฟาราเดย์ ฟิวเจอร์
แม้เทสลาได้รับการยกย่องจากการสยบคำสบประมาทที่ว่า รถไฟฟ้ามีปัญหาเรื่องความเร็ว ระยะการขับขี่ และการจัดการ แต่ฟาราเดย์ ฟิวเจอร์ ผู้ผลิตรถไฟฟ้าน้องใหม่สายเลือดมังกร กำลังจะสร้างสถิติใหม่ด้วย FF91 เอสยูวีไฟฟ้าขับขี่อัตโนมัติ กำลังเครื่องยนต์ 1,050bhp สามารถทำความเร็ว 0-96.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (kph) ในเวลาเพียง 2.35 วินาที โฟร์วีลรุ่นนี้ยังวิ่งได้ระยะทางถึง 775 กม. ที่ความเร็ว 88.5kph จากการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว นอกจากนั้นยังมีระบบชาร์จเร็วที่สุดเท่าที่พร้อมใช้งานในขณะนี้ เซ็นเซอร์ LIDAR ช่วยสแกนเส้นทางข้างหน้า และแผงที่ไวต่อสัมผัสบนเสา B สำหรับเปิดประตูรถ ที่สำคัญ ฟาราเดย์เตรียมขึ้นสายการผลิต FF91 รุ่นแรกในปีหน้า
ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ผู้ผลิตรถจำนวนมากอ้าแขนรับคอนเซ็ปท์ AI ทว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีค่ายไหนใส่ระบบนี้ในรถที่ผลิตออกสู่ตลาด จะมีก็แต่เพียงรถต้นแบบ อาทิ Hondas Automated Network Assistant (ฮานา) ที่นำออกแสดงเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งใช้การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและการจดจำใบหน้าเพื่อดูว่า คุณกำลังเครียดอยู่หรือเปล่าและอาจแนะนำให้คุณพัก ฮานายังสามารถเช็คอารมณ์คนขับและแนะนำรายชื่อเพลงตามอารมณ์ขณะนั้น ขณะที่เทคโนโลยี Safe Swarm ช่วยให้ฮานาสื่อสารกับรถคันอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เพื่อป้องกันการชน และแม้ยังไม่มีรถที่ติดตั้งระบบ AI ทั้งหมดลงตลาดก่อนถึงปี 2030 แต่ผู้ผลิตจำนวนมากบอกว่า ใส่ฟังก์ชัน AI หลายอย่างในรถที่จะผลิตออกมาเร็วกว่าที่คาดไว้
เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ
เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติมีทั้งหมด 5 ระดับ โดยระบบที่ดีที่สุดในขณะนี้ยังอยู่ที่ระดับ 3 เท่านั้น และแต่ละระดับมีความแตกต่างกันมาก ดังนั้น การที่ออดี้ออกมาป่าวประกาศอย่างมั่นใจว่า บริษัทกำลังผลิตรถอัตโนมัติระดับ 4 ที่จะออกมาในปี 2020 จึงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ออดี้เปิดตัวต้นแบบยานยนต์ไร้คนขับในรูปโฉม Q7 ติดตั้งระบบ AI ที่พัฒนาร่วมกับเอ็นวิเดีย ทั้งนี้ รถไร้คนขับระดับ 4 เกือบจะเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติอย่างสมบูรณ์เพียงแต่สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่กำหนดเท่านั้น ขณะที่ระดับ 5 สามารถรับมือกับทุกสภาพแวดล้อมจริง แต่ยังต้องพัฒนากันอีกพักใหญ่
ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ วี-ชาร์จ ของ Torotrak
วิศวกรรมเครื่องกลมีพัฒนาการก้าวล้ำไม่แพ้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ วีชาร์จของ Torotrak วีชาร์จมีขนาดเล็กกว่าและเบากว่าซูเปอร์ชาร์จเจอร์ทั่วไป ออกแบบมาเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น วีชาร์จที่ติดตั้งกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.0T Ecoboost ของฟอร์ด สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 12% และเพิ่มกำลังเครื่องยนต์จาก 123bhp เป็น 158bhp รวมทั้งเพิ่มแรงบิด 40% จาก 125 ปอนด์-ฟุต เป็น 194 ปอนด์-ฟุต
ห้องโดยสารแบบ Thrid space
จากนี้ไปคุณจะได้ยินคำว่า third space บ่อยขึ้น เนื่องจากบริษัทรถหลายแห่งกำลังพยายามสร้างห้องโดยสารที่ใกล้เคียงสภาพแวดล้อมภายในบ้านมากขึ้น เช่น รถต้นแบบ พอร์ทัล ของไครสเลอร์ แต่ที่น่าประทับใจกว่าน่าจะเป็น i Inside Future ของบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้ระบบ HoloActive Touch ช่วยให้คนขับสามารถเลื่อนดูและควบคุมฟังก์ชันต่างๆ โดยไม่ต้องสัมผัสสิ่งใดๆ นอกจากนี้ยังมีการสร้างโฮโลแกรมด้วยการฉายแสงเลเซอร์ส่องบนวัตถุเพื่อให้ภาพตกกระทบบนหน้าจอเสมือนที่ลอยอยู่ในอากาศ และมีกล้องตรวจจับการสัมผัสของนิ้วกับหน้าจอเสมือนนี้ ขณะเดียวกัน บ๊อชกำลังพัฒนาห้องโดยสารที่สามารถตรวจจับอัตลักษณ์ของคนขับและปรับแต่งทุกอย่างตั้งแต่ตำแหน่งพวงมาลัยจนถึงอุณหภูมิอย่างสอดคล้องโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นฟังก์ชันต่างๆ ยังสั่งการด้วยท่าทางที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้การตอบสนองต่อคนขับอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เมอร์เซเดส วิชัน แวน
เมอร์เซเดสตั้งโจทย์ผลิตรถตู้ที่ดูเซ็กซี่ในชื่อ วิชั่น แวน ที่มาพร้อมโดรนติดตั้งบนหลังคาและระบบจัดการสัมภาระอัตโนมัติ เพื่อตอบสนองยุคแห่งการช้อปออนไลน์ รถตู้ไฟฟ้าของเมอร์เซเดสสามารถลดระยะเวลาการจัดส่งลงครึ่งหนึ่งด้วยโดรนที่บรรทุกของหนัก 2 กก. ในระยะทาง 20 กม. ด้วยความเร็ว 60 กม./ชั่วโมง
ระบบชาร์จไร้สาย
แม้โรลส์รอยซ์เคยเปิดตัวรถต้นแบบ 102EX ที่สามารถชาร์จไฟแบบไร้สายได้มาตั้งแต่ปี 2011 แต่ตอนนี้ฟอร์ดอวดอ้างว่า กำลังพัฒนาวิธีการติดตั้งเทคโนโลยีเดียวกันนี้ในรถที่จะขึ้นสายการผลิตในอีกไม่นานเกินรอ ไอเดียก็คือผู้ขับขี่รถไฟฟ้าสามารถ จอดและชาร์จ โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยแก้ปัญหาการลืมชาร์จไฟรถ ฟอร์ดตั้งเป้านำร่องเสนอนวัตกรรมใหม่นี้ในยุโรปและอเมริกา ซึ่งลูกค้าสามารถค้นหาที่จอดรถที่มีระบบชาร์จไฟไร้สายผ่านแอปพลิเคชัน
FordPassไฟหน้าระบบดิจิตอล
เมอร์เซเดสพัฒนาไฟหน้า HD โดยใช้กระจกขนาดเล็กกว่า 1 ล้านชิ้นต่อไฟหน้า 1 ดวง และแต่ละดวงมีความละเอียดมากกว่า 2 ล้านพิกเซล กลไกการทำงานของนวัตกรรมนี้คือคอมพิวเตอร์ในตัวจะรับข้อมูลสภาพแวดล้อมอย่างละเอียดจากเซ็นเซอร์ของรถเพื่อคำนวณค่าความสว่างแบบเรียลไทม์ และปรับการกระจายแสงเพื่อทัศนวิสัยที่ดีที่สุดโดยไม่ทำให้คนขับรถคันอื่นตาพร่า
|