|
ขอบคุณข้อมูล ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (28 ก.พ. 2560) [1589 Views]
|
ตลาดอีโคคาร์ 5 ปีใกล้ทะลุล้านคันยังระอุต่อเนื่อง 6 ค่ายรถเดินเครื่องถล่มเดือดกันตั้งแต่ต้นปี "นิสสัน" แก้ปัญหารถขาด "มาสด้า" ชูเทคโนโลยีจัดเต็ม "ซูซูกิ" สวนหมัดทำลีสซิ่งเองลุยอัดโปรแรงดอกเบี้ย 0% ยาว 3 ปี "โตโยต้า-มิตซูบิชิ-ฮอนด้า" เร่งคลอดแคมเปญป้องลูกค้า วงในชี้ซื้ออีโคคาร์ 1 คุ้มกว่า
แหล่งข่าวกลุ่มยานยนต์หอการค้าญี่ปุ่น เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลาดอีโคคาร์ซึ่งปล่อยรถลงตลาดมาตั้งแต่ปี 2553 นับต่อเนื่องมาถึงสิ้นปี 2559 ระยะเวลา 5 ปีเต็มมียอดขายรวมมากกว่า 7.4 ล้านคัน ยังเป็นตลาดที่น่าจับตาและเป็นเป้าหมายสำคัญของค่ายรถยนต์ โดยเฉพาะ 6 ค่ายใหญ่ ซึ่งมีอีโคคาร์ทำตลาด ประกอบด้วย นิสสัน, ฮอนด้า, ซูซูกิ, มิตซูบิชิ, โตโยต้า และมาสด้า โดยปี 2560 นี้ถือว่าคึกคักมากขึ้น เพราะหลายค่ายประดาบกันตั้งแต่ต้นปี
เริ่มจากนิสสัน เปิดอีโคคาร์เฟสแรกรุ่นที่ 3 นิสสันโน๊ต เมื่อกลางเดือนมกราคม ตามมาด้วยค่ายมาสด้า ส่งอีโคคาร์เฟส 2 มาสด้า 2 ไมเนอร์เชนจ์ พร้อมเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์ พร้อมระบบจี-เวคเตอริ่ง ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการควบคุมรถกลางเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่ายซูซูกิเปิดตัวอีโคคาร์ สวิฟท์รุ่นที่ 5 อาร์เอ็กซ์-2 เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบสปอร์ตอีโคคาร์ พร้อมทั้งเตรียมหมัดเด็ด แคมเปญส่งเสริมการขายเต็มที่
ซูซูกิปลอดดอกเบี้ย 3 ปี
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนรุกตลาดปีนี้จะเข้มข้นกว่าทุกปีแน่นอน เพราะตอนนี้ซูซูกิมีลีสซิ่งเป็นของตัวเอง พร้อมให้บริการด้านสินเชื่อกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ได้รับผลกระทบจากปัญหาการปล่อยสินเชื่อเยอะมาก ดังนั้นหลังจากซูซูกิผนึกเกียรตินาคินก็น่าจะปลดล็อกปัญหานี้ได้
นอกจากนี้ ซูซูกิยังมีสินค้าตอบสนองความต้องการลูกค้าต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้คลอด ซูซูกิ สวีฟท์ อาร์เอ็กซ์-2 ภายใต้นิยาม "ล้ำ...ที่สไตล์ สุด...กับทุกฟังก์ชั่น" ในเจเนอเรชั่นที่ 5 หลังจากแนะนำสวิฟท์ ใหม่ไปเมื่อปี พ.ศ. 2556 ตามมาด้วยสวิฟท์ กรีนเอเนอร์จี ลิมิเต็ด สีเขียวสดใสเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สวิฟท์เวอร์ชั่นพิเศษอาร์เอ็กซ์ และในปีที่ผ่านมากับเวอร์ชั่นพิเศษ ซูซูกิ สวิฟท์ ไซ สีม่วงมูนไลต์ ไวโอเลต
โดยซูซูกิตั้งเป้ายอดขายอีโคคาร์ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ สวิฟท์, เซียส และเซเลริโอ้ ไว้ 20,000 คัน แบ่งเป็นสวิฟท์ 6,500 คัน, เซียส 11,500 คัน และเซเลริโอ้ 2,000 คัน จากยอดขายซูซูกิปีนี้ที่คาดว่าทะลุถึง 24,000 คัน
นายวัลลภกล่าวว่า ตลาดอีโคคาร์ปีนี้สภาพการแข่งขันรุนแรงแน่ เพราะมีปัจจัยสนับสนุนเยอะ มีรถใหม่ลงตลาดหลายยี่ห้อ ประกอบกับผู้ใช้รถคันแรกครบกำหนดระยะเวลาถือครอง 5 ปี พร้อมเปลี่ยนรถใหม่ ทำให้เชื่อว่าปีนี้สัดส่วนอีโคคาร์จะทะยานไปถึง 50% ของรถยนต์นั่ง และเพื่อให้การทำตลาดคึกคักมากยิ่งขึ้น บริษัทยังได้คลอดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าพร้อมมอบโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี สำหรับซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์-2 และปลอดดอกเบี้ยนาน 3 ปี สำหรับซูซูกิ เซียส
เร่งส่งโน๊ตลงโชว์รูม
ด้านนางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้แก้ปัญหากระบวนการผลิตของนิสสันโน๊ตเรียบร้อย โดยในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้รถจะทยอยเต็มทุกโชว์รูม ดังนั้นเชื่อว่าปัญหาภาวะการขายซึ่งสะดุดหลังบริษัทเปิดตัวแล้วไม่มีรถให้ลูกค้าสัมผัสจนไม่กล้าตัดสินใจซื้อจะหมดไปแน่นอน
"ตอนนี้ยอดคนลงทะเบียนขอรับสิทธิพิเศษ20,000 บาท เมื่อจองภายในวันที่ 15 มีนาคม และออกรถภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 มีมากกว่า 5,000 ราย ในจำนวนนี้ตัดสินใจจองสูงถึง 500 ราย หรือราว ๆ 10% และในจำนวนนั้น 100 กว่ารายผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากนิสสันลีสซิ่งแล้วด้วย ต้องบอกว่ายอดจองเราพุ่งขึ้นจากการเดินสายโชว์รถทั่วประเทศจองเข้ามาวันละหลายสิบคัน"
นางสาวสุรีทิพย์กล่าวอีกว่าปัญหาลูกค้าไม่เห็นรถในโชว์รูมรุนแรงมาก นิสสันคาดไม่ถึงกับปัญหาเปิดตัวรถคร่อมปีงบประมาณ ซึ่งกำหนดนิสสันโน๊ตเป็นโปรดักชั่นของปีงบประมาณ 2560 (มีนาคม 2560-เมษายน 2561) ดังนั้นนิสสันโน๊ตจึงต้องเริ่มผลิตในเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้เสียโอกาสหลังเปิดตัวไม่มีรถให้ลูกค้าสัมผัส
"มีกลุ่มลูกค้าพยายามติดต่อคอลเซ็นเตอร์ว่าอยากจะจองแต่ต้องการเห็นรถตัวจริงก่อน สามารถไปดูได้ที่ไหนบ้าง เราก็เลยมีมาตรการเร่งกำหนดส่งรถเข้าโชว์รูมเร็วขึ้น 15 วันกว่ากำหนดเดิม ซึ่งกำหนดไว้กลางเดือนมีนาคม ดังนั้นจะมีรถลอตแรกเข้าโชว์รูมตั้งแต่ 1 มีนาคมเป็นต้นไป ครอบคลุมจังหวัดที่เป็นตลาดหลักทั่วประเทศ เน้นกรุงเทพฯ หัวเมือง และจังหวัดที่มียอดขายมาร์ชและอัลเมราสูง ยังคงเหลืออีกประมาณ 50% ของโชว์รูม ส่วนรถลอตสองจะเข้าวันที่ 17 มีนาคมเป็นต้นไป"
นางสาวสุรีทิพย์กล่าวอีกว่า หากถามถึงการตอบรับถือว่าดีมากไม่ได้ชะงัก เหตุผลที่พูดแบบนี้เพราะยอดลงทะเบียนออนไลน์เทียบเท่ากับยอดลูกค้ามุ่งหวัง 5,000 รายนี้ถือว่าเป็นฮอต โพรสเป็กต์ (Hot Prospect) ซึ่งเหตุผล 3 ข้อของลูกค้าที่ตรงกันทุกพื้นที่ คือ 1.ดีไซน์และรูปลักษณ์สวยถูกใจ 2.ขนาดของรถและความกว้างของห้องโดยสาร และ 3.เทคโนโลยีบนรถและรู้สึกว่าเป็นรถที่ปลอดภัย ซึ่งนิสสันอยากจะบอกลูกค้าบางส่วนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอยากรออีโคคาร์เฟส 2 ควรจะรีบตัดสินใจ เพราะเชื่อได้ว่าอีโคคาร์เฟส 2 ไซซ์ไม่น่าจะใหญ่เท่าอีโคคาร์เฟสแรก เนื่องจากต้องพยายามทำอิมมิชั่นให้ต่ำตามเกณฑ์ และราคาเฟสแรกกับสองก็ต่างกันไม่เกิน 3 หมื่นบาทเท่านั้น"
มาสด้าชูเทคโนโลยีจัดเต็ม
ขณะที่นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้เชื่อว่าการแข่งขันในตลาดอีโคคาร์รุนแรงมากขึ้น และการปรับโฉมใหม่มาสด้า 2 ครั้งนี้จะกระตุ้นตลาดอย่างจริงจัง เพราะมาสด้าให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับอีโคคาร์มาก่อน ทั้งสกายแอคทีฟ-วีฮิเคิล ไดนามิกส์ ระบบจี-เวคเตอริ่ง และเทคโนโลยี i-ACTIVSENE ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย
"จุดขายเราคือเทคโนโลยีจัดเต็ม แต่ราคาขยับเล็กน้อยเท่านั้น เราตั้งเป้ามาสด้า 2 สูงถึง 27,000 คันต่อปี เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 16%"
มาสด้า 2 มีให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู โดยในแต่ละรูปแบบตัวถังจะมี 7 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 530,000-789,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อวันนี้รับฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
เช่นเดียวโตโยต้า มิตซูบิชิ และฮอนด้า กล่าวยอมรับว่า ตลาดแข่งขันกันแรงจริง แต่อย่างไรเสีย ทุกคนก็ต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งรวมถึงลูกค้าของตัวเองไว้
นางสาวอนงค์ ศุภราวงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิยังให้ความสำคัญกับแคมเปญพิเศษ สำหรับมิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ โดยมอบไดมอนด์ วอร์แรนตีนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ และมิตซูบิชิออกให้สูงสุด 57,000 บาท สำหรับมิตซูบิชิ แอททราจ ส่วนมิราจ มิตซูบิชิออกให้สูงสุด 47,000 บาท วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560
ฮอนด้าช่วยผ่อนทุกเดือน
ขณะที่ฮอนด้าก็ยังมีแคมเปญช่วยผ่อนให้ทุกเดือน ๆ ฮอนด้า บริโอ้ และบริโอ้ อเมซ ช่วยผ่อนเดือนละ 2,500 บาท นาน 12 เดือน ซื้อตอนนี้แถมจักรยานโมดูโรด้วย คล้ายกับโตโยต้าให้ขับฟรี 3 เดือน ดาวน์ 10% โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำ และมอบส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 10,000-100,000 กิโลเมตร
กลุ่มยานยนต์ หอการค้าญี่ปุ่น ยังรายงานยอดการขายอีโคคาร์เพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2553-2559 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดขายอีโคคาร์สะสม ทั้งสิ้น 740,401 คัน นิสสัน ขายมาร์ช-อัลเมราได้ 262,716 คัน 35.48% โตโยต้าขายยาริสได้ 137,871 คัน คิดเป็น 18.62% มิตซูบิชิขายมิราจและแอททราจได้ 136,138 คัน คิดเป็น 18.39% ค่ายซูซูกิ ขายสวิฟท์, เซียส และเซเลริโอ้ ได้ 104,550 คัน คิดเป็น 14.12% ฮอนด้า ขายบริโอ้และบริโอ้ อเมซ ได้ 56,838 คัน มีคิดเป็น 7.68% ในขณะที่มาสด้า ขายมาสด้า 2 ทั้งเครื่องเบนซินและดีเซลได้ 42,288 คัน คิดเป็น 5.71%
|