 |
ขอบคุณข้อมูล MGR Online (11 เม.ย. 2018) [1297 Views]
|
จากเข็มขัดและถุงลมนิรภัยที่ช่วยป้องกันการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี วันนี้ บริษัทรถยนต์ได้เพิ่มอุปกรณ์ช่วยเหลือคนขับ ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ต้น ที่สำคัญกว่านั้นคือ มีโอกาสมากขึ้นที่รถคันต่อไปของคุณจะมีอุปกรณ์เหล่านี้ติดตั้งอยู่
อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงเปรียบไปแล้วเหมือนเพื่อนร่วมทางที่พร้อมเข้าช่วยเหลือเพื่อป้องกันอุบัติเหตุโดยไม่ต้องรอให้คนขับร้องขอ เช่น ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive cruise control) ที่สามารถปรับความเร็วรถ และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ และมักมาพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่จะบังคับให้รถเบรกเมื่อตรวจพบว่า รถกำลังจะชนแต่คนขับไม่เหยียบเบรก
นอกจากนี้ยังมีอีกสองเทคโนโลยีสำคัญที่เอ็ดมันด์ส ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลรถยนต์ในระบบออนไลน์ของอเมริกา ระบุว่า มีประโยชน์อย่างมากในการปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนน ได้แก่ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane keeping assist) ที่จะช่วยบังคับรถให้กลับมาอยู่ในเลนเมื่อตรวจพบว่า รถกำลังจะออกนอกเลน และระบบตรวจจับจุดบอดที่จะแจ้งเตือน เมื่อมีรถกำลังพุ่งเข้ามาจากด้านหลังในมุมที่คนขับมองไม่เห็น
ฟีเจอร์เหล่านี้เคยมีเฉพาะในรถหรูราคาแพงเท่านั้น แต่วันนี้กลับกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในรถหลายรุ่นที่ราคาพอรับไหว และต่อไปนี้คือรถ 4 รุ่นที่ราคาขายในอเมริกาต่ำกว่า 25,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 780,000 บาท ที่เอ็ดมันด์สบอกว่า มีฟีเจอร์ที่กล่าวมาข้างต้นรวมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ ที่ทำให้รถเหล่านี้น่าสนใจอย่างยิ่งนอกเหนือจากราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อม
โตโยต้า ซี-เอชอาร์ เอ็กซ์แอลอี 2018 (23,495 ดอลลาร์ - 734,800 บาท)
โตโยต้า ซี-เอชอาร์ 2018 เป็นซับคอมแพคเอสยูวีน้องใหม่ของโตโยต้าที่มาพร้อมฟีเจอร์มาตรฐานมากมาย ซึ่งเป็นคำอธิบายชัดเจนว่า เหตุใดโตโยต้าจึงเป็นหนึ่งในบริษัทรถที่เป็นผู้นำในด้านมาตรฐานเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงบนถนน
โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์เป็นระบบความช่วยเหลือมาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในรถหลายรุ่นของโตโยต้า สำหรับซี-เอชอาร์ ฟีเจอร์เหล่านี้ครอบคลุมถึงระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติและระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง นอกจากนี้ยังมีระบบไฟสูงอัตโนมัติเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นตอนกลางคืน และยังสามารถสลับไฟสูง-ไฟต่ำเพื่อไม่ให้ไฟแยงตาคนขับที่สวนทางมา
ซี-เอชอาร์ยังมีระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติที่สามารถบังคับให้รถเบรก และระบบป้องกันก่อนชนพิเศษที่ตรวจจับได้ทั้งคนเดินและรถ
ยิ่งถ้าเป็นซี-เอชอาร์ พรีเมียมที่ราคาขยับขึ้นมาเป็น 25,345 ดอลลาร์ (792,000 บาท) ด้วยแล้วจะมีระบบตรวจจับ จุดบอดและระบบเตือนขณะถอยหลัง (rear cross-traffic alert) ติดตั้งอยู่ด้วย
ฮอนด้า แอคคอร์ด แอลเอ็กซ์ 2018 (24,460 ดอลลาร์ - 765,000 บาท) ฮอนด้า แอคคอร์ด 2018 เป็นซีดานขนาดกลางที่สะดวกสบาย และกว้างขวาง ถูกใจเอ็ดมันด์สอย่างยิ่ง แม้แต่รุ่นมาตรฐานแอลเอ็กซ์ยังขับง่าย เร่งความเร็วทันใจ และควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ
ฮอนด้า เซนซิ่งที่ติดตั้งอยู่ในแอคคอร์ด เป็นหนึ่งในระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุมที่สุดเท่าที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ โดยประกอบด้วยระบบเบรกอัตโนมัติ ไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง และระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติที่สั่งเบรกรถได้แบบเดียวกับซี-เอชอาร์ นอกจากนั้น แอคคอร์ดยังมีกล้องด้านหน้าที่จดจำป้ายจำกัดความเร็วและแสดงข้อมูลบนแผงหน้าปัด ซึ่งเป็นประโยชน์มาก
ซูบารุ อิมเพรสซา แฮตช์แบค 2.0i (24,050 ดอลลาร์ - 752,000 บาท)
ซูบารุ อิมเพรสซา 2018 เป็นรถรุ่นเดียวในบทความชิ้นนี้ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมาตรฐานซึ่งเหมาะมากสำหรับสภาพถนนที่เปียกลื่นหรือมีหิมะปกคลุม ซูบารุ อิมเพรสซาเป็นรถเล็กที่ใช้งานง่ายสะดวกสบาย รุ่นแฮตช์แบคมีเพดานสูงขึ้นและส่วนเก็บสัมภาระกว้างขวางกว่ารุ่นซีดาน
ระบบความปลอดภัยของซูบารุมีชื่อว่า อายไซต์ มีกล้องเป็นผู้ช่วยสำคัญ แต่ระบบนี้ไม่ได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในอิมเพรสซา อย่างไรก็ตาม ถ้าสั่งติดตั้งเพิ่ม ราคารถก็ยังไม่ถึง 25,000 ดอลลาร์อยู่ดี (24,050 ดอลลาร์ - 752,000 บาท)
อายไซต์ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง และ Steering-responsive foglights หรือระบบไฟหน้าที่ทำงานสัมพันธ์กับพวงมาลัย
นิสสัน เซนทรา เอสอาร์พร้อมพรีเมียม แพ็คเกจ 2018 (24,945 ดอลลาร์ - 780,000 บาท)
นิสสัน เซนทราเป็นผู้เล่นสำคัญในเซ็กเมนต์ซีดานขนาดเล็กมาช้านาน แม้เอ็ดมันด์สออกตัวว่า ไม่ใช่รถคันโปรดโดยรวม แต่เมื่อพิจารณาคุณสมบัติความสะดวกสบายและระบบช่วยผู้ขับขี่ขั้นสูงของรถที่ราคาไม่ถึง 25,000 ดอลลาร์แล้ว คงยากที่จะมองข้ามรถรุ่นนี้ไปได้
เซนทรา เอสอาร์มาพร้อมฟีเจอร์มาตรฐาน ได้แก่ ระบบเบรกอัตโนมัติและระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติที่ทำงานในช่วง 20-90 ไมล์ (32-145 กิโลเมตร) แต่จะไม่สั่งเบรกรถ ในส่วนพรีเมียมแพ็คเกจมาพร้อมระบบตรวจจับจุดบอดและระบบเตือนขณะถอยหลัง และความหรูหราอื่นๆ เช่น เบาะหนัง ระบบนำทาง ระบบเพิ่มความร้อนให้เบาะ (heated seats) ระบบเสียงจาก Bose และอื่นๆ อีกมากมาย
เอ็ดมันด์สทิ้งท้ายว่า ระบบช่วยคนขับขั้นสูงมีมาพักหนึ่งแล้วและได้รับการพิสูจน์ว่า สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ติดที่ราคายังแพงอยู่มาก โชคดีที่วันนี้ผู้ผลิตหลายแห่งมองว่า เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงเป็นฟีเจอร์จำเป็นมากกว่าความหรูหรา และลงมือติดตั้งอุปกรณ์ทรงคุณค่าเหล่านี้ในรถหลายรุ่นพร้อมตั้งราคาไม่แพงจนเกินไป
| 
