• หน้าแรก
  • รุ่นรถยนต์/อีวี
  • รุ่นจักรยานยนต์
  • รุ่นรถแทรกเตอร์
  • รถเกี่ยวข้าว/Smart Farm
  • เครื่องยนต์อเนกประสงค์
  • ค้นหาผู้จำหน่าย
  • กระดานซื้อขาย/MotorShow
  • ข่าวเด่นรถยนต์Œ/รีวิวรถยนต์
  • ติดต่อโฆษณา

รีวิวรถยนต์-รถอีโคคาร์ | รีวิวรถกระบะ-รถพีพีวี | รีวิวจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ | ข่าวรถแทรกเตอร์

โปรโมชั่น รถยนต์-รถกระบะ | โปรโมชั่น รถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ | โปรโมชั่น รถแทรกเตอร์

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไมเนอร์เชนจ์ หัวใจใหม่ 2.0 ลิตร
เทอร์โบ ราคาเริ่ม 5.59 แสนบาท

 



ขอบคุณข้อมูล MGR Online(20 ก.ค. 2018) [1710 Views]

“ฟอร์ด” ปรับโฉม “เรนเจอร์” ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนหัวใจใหม่ใส่เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า พร้อมเอาใจสายซิ่งด้วยรุ่นท็อป 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ 213 แรงม้า ตัวเดียวกับกระบะบ้าพลัง เรนเจอร์ แรพเตอร์ พร้อมใส่เกียร์ 10 สปีด ชูเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าใครทั้ง ระบบความปลอดภัยระดับรถหรูและระบบเชื่อมต่อ ซิงค์3 เสริมด้วยการโทรช่วยเหลือฉุกเฉิน เคาะราคา 559,000-1,265,000 บาท

นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธานฟอร์ด อาเซียน และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีและขุมพลังใหม่ล่าสุดของ ฟอร์ด เรนเจอร์ โฉมไมเนอร์เชนจ์ จะปฏิวัติมาตรฐานของวงการรถกระบะและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า รวมถึงการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น

สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไมเนอร์เชนจ์ มากับเครื่องยนต์ดีเซล 3 ทางเลือก ได้แก่ ดูราทอร์ค 2.2 ลิตร 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบต่อนาที 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบต่อนาที , 2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที และ 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ 21 3 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที

ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ในรุ่น ไวลด์แทรค 4x4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวท้อปสุด ส่วนในรุ่นไวลด์แทรค 4x2 และรุ่นลิมิเต็ด (Limited) จะบรรจุเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ10สปีด โดยในรุ่นLimitedยังมีแบบเกียร์ธรรมดา6สปีดให้เลือกอีกด้วย ขณะที่รุ่นย่อย XLT, XLS และ XL ยังคงบรรจุเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ในส่วนของ เครื่องยนต์ไบเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตรใช้ระบบ SequentailTurbocharging ที่ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จเจอร์ทั้ง 2 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ โดยเทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวแรกเป็นแบบเทอร์โบแปรผัน (VartiableTurbocharger) ช่วยเตอบสนองคันเร่ง และลดช่วงการรอรอบ ให้เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้าสูง แม้วิ่งด้วยความเร็วต่ำใน ขณะที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองซึ่งเป็นระบบเทอร์โบ Fixed-geometry จะรับหน้าที่ต่อเพื่อเพิ่มกำลังและความเรียบลื่นให้กับเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วสูง

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมระบบเตือนการชน (Pre-Collision Assist) ที่ผสานระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบตรวจจับยานพาหนะ (Vehicle Detection) เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ โดยระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจจับคนเดินถนนและยานพาหนะด้านหน้า และจะทำการช่วยเบรกจนหยุดนิ่ง หากระบบพบว่าคนขับไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง โดยระบบนี้จะทำงานเมื่อใช้ความเร็วสูงกว่า 3.6

นอกจากระบบใหม่ดังกล่าวแล้วยังมี ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (Lane Departure Warning) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) อยู่ในฟอร์ด เรนเจอร์ เช่นเดิม

ทั้งนี้ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไมเนอร์เชนจ์ ยังได้รับการใส่เทคโนโลยีเที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถระดับเดียวกันเช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist - APA) ซึ่งช่วยให้การเทียบจอดรถข้างทางเป็นเรื่องง่าย โดยระบบกึ่งอัตโนมัติจะบังคับทิศทางของรถให้เข้าสู่ช่องจอด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น

เหนืออื่นใด สะดวกสบายด้วยกุญแจอัจฉริยะ(PEPS) , ปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ และ ระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย ด้วยกลไกจะช่วยผ่อนแรงของผู้ใช้ลง 70 เปอร์เซ็นต์ เปิดปิดฝากระบะท้ายง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยมีอยู่ในเรนเจอร์รุ่นไวลด์แทรค และ LTD ส่วนรุ่น XL และ XLS มีเพิ่มระบบพวงมาลัยไฟฟ้าครบทุกรุ่นย่อย

ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ได้รับการออกแบบตกแต่งในโทนสีดำ พร้อมพื้นผิววัสดุตรงจุดสัมผัสที่ทนทานเใช้งานได้ยาวนาน พร้อมเพิ่มความหรูหราด้วยโครเมียมและการเดินด้ายสีเงิน ตอบสนองทุกการใช้งาน ทั้งในวันทำงานที่หนักหน่วง การเดินทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์หรือการผจญภัยแบบออฟโรด

สำหรับรูปลักษณ์ของเรนเจอร์ ปรับเปลี่ยนกระจังหน้าดีไซน์เรียบง่ายแต่มีมิติที่เด่นชัด และกันชนล่างปรับให้ช่องนำอากาศกว้างขึ้น เฉพาะเรนเจอร์ ไวลด์แทรค และ Limited มาพร้อมไฟเดย์ไลท์ LED และไฟหน้า HID เพื่อทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้น พิเศษในรุ่น ไวลด์แทรค มาพร้อมสีภายนอกใหม่ ‘เซเบรอ’ สีส้มประกายบลอนด์ พร้อมกระจังหน้าสีเทาเข้ม สปอร์ตบาร์และล้ออัลลอย 18 นิ้ว

นอกจากนั้น เฉพาะไวลด์แทรค รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้รับเพิ่มระบบตัดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (Active Noise Cancellation) เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกสบายและเป็นส่วนตัว รวมถึงได้รับความบันเทิงสูงสุด จากระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) รองรับ Apple Carplay และ Andriod Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง

ทั้งนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถใช้งาน Apple Maps และระบบแผนที่นำทางดาวเทียมซึ่งติดตั้งมากับรถเมื่อออกนอกพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ นอกจากนี้ ระบบซิงค์ 3 ยังมาพร้อมระบบจดจำเสียงและระบบสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยเพื่อการใช้งานที่คล่องตัวยิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบซิงค์ 3 ยังครอบคลุมไปถึงระบบช่วยโทรฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ซึ่งจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธภายในรถ เพื่อติดต่อไปยังหมายเลข 1669 ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจนถุงลมนิรภัยทำงานหรือระบบตัดการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบช่วยโทรฉุกเฉินนี้จะติดตั้งมากับรถฟอร์ด เรนเจอร์ใหม่ทุกคันที่ใช้ระบบซิงค์ 3

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ สีภายนอกให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีใหม่ 2 สี นั่นคือ สีส้มเซเบรอ (เฉพาะรุ่นไวลด์แทรค) และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) และสีมาตรฐาน ได้แก่ สีเงินอะลูมิเนียม เมทัลลิค (Aluminuim Metallic) สีดำแอพโซลูท แบล็ค เมทัลลิค (Absolute Black Metallic) สีเทาเมทีออร์ เกรย์ เมทัลลิค (Meteor Grey Metallic) สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีแดงทรู เร้ด (True Red)

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่เฉพาะแร็พเตอร์เท่านั้น และสีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และสีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White)

นอกจากนี้ ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จะได้รับความคุ้มค่าและความสะดวกสบาย ด้วยบริการฟรีค่าแรงในการตรวจเช็คตามระยะ สูงสุดถึง 5 ปี หรือภายในระยะ 75,000 กิโลเมตร เพียงเข้าตรวจเช็คระยะทุก 15,000 กิโลเมตร หรือทุก 1 ปี



ความคิดเห็นผ่าน Facebook



ข่าวน่าสนใจ Hot News
ปตท.-ฟ็อกซ์คอนน์ จับมือปั้นไทยฮับผลิต EV
นิสสัน เสริมตลาดปิกอัพ "นาวารา ซิงเกิล แค็บ"
ไทรอัมพ์ฯ เผย 5โมเดลใหม่ล่าสุด บอนเนวิลล์ 2021
ดูคาติ ตัวแทนใหม่ “โมโตเร อิตาเลียโน่” เปิดโชว์รูมบนตึกอาวดี้
สยามคูโบต้า หนุนทำ Smart Farmer รับแรงงานรุ่นใหม่
ยันม่าร์ เปิดตัวรถเกี่ยวข้าว ตู้แอร์ YH1180 Cabin
เปิดตัว! จอบหมุน ฟาร์มเทค พรีเดเตอร์ แกร่ง แรง เร็ว









หมวดยานยนต์-แทรกเตอร์ โปรโมชั่น-ข่าวเด่น-รีวิว 108เอ็นจินดอทคอม
รถอีวี /รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โปรโมชั่นรถยนต์ /รถแทรกเตอร์ /จักรยานยนต์ หน้าแรก108engine.com
รถอีโคคาร์ ข่าวรถยนต์-รถไฟฟ้า ข้อตกลงการใช้งาน
รถกระบะ-รถอเนกประสงค์ ข่าวรถแทรกเตอร์-SMART FARM นโยบายความเป็นส่วนตัว
รถแทรกเตอร์ ข่าวรถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ ติดต่อโฆษณา Advertise With Us
รถเกี่ยวนวดข้าว MOTOR SHOW / TRACTOR SHOW ติดต่อเรา Contact Us
รถจักรยานยนต์ ทัวร์ร้านค้ายานยนต์ทั่วไทย  
รถบิ๊กไบค์ รีวิว รถยนต์-รถอีวี  
เครื่องยนต์อเนกประสงค์ รีวิว รถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์  
Follow us
   
Copyright © 2000 - 2024  108Engine Dot Com All Rights Reserved
 
cheap air max|cheap air jordans|pompy wtryskowe|cheap huarache shoes| bombas inyeccion|cheap jordans|cheap sneakers|wholesale jordans|cheap china jordans|cheap wholesale jordans|cheap jordans|wholesale jewelry china