• หน้าแรก
  • รุ่นรถยนต์/อีวี
  • รุ่นจักรยานยนต์
  • รุ่นรถแทรกเตอร์
  • รถเกี่ยวข้าว/Smart Farm
  • เครื่องยนต์อเนกประสงค์
  • ค้นหาผู้จำหน่าย
  • กระดานซื้อขาย/MotorShow
  • ข่าวเด่นรถยนต์Œ/รีวิวรถยนต์
  • ติดต่อโฆษณา

รีวิวรถยนต์-รถอีโคคาร์ | รีวิวรถกระบะ-รถพีพีวี | รีวิวจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ | ข่าวรถแทรกเตอร์

โปรโมชั่น รถยนต์-รถกระบะ | โปรโมชั่น รถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ | โปรโมชั่น รถแทรกเตอร์

โหมโรง TOYOTA C-HR ทำไมต้องไฮบริด-1.8

 



ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (3 ธ.ค. 2560) [1330 Views]

โตโยต้าปลุกเทรนด์รถยนต์ไฮบริดให้กระหึ่มอีกครั้ง หลังประกาศลงทุนรอบใหม่ด้วยเงิน 2 หมื่นล้านบาท พร้อมปูพรมโหมกระแสอย่างต่อเนื่อง

โดยยุคใหม่ของโตโยต้า เมืองไทย จะมีขุมพลังไฮบริดแทรกอยู่ในไลน์อัพของรถยนต์หลายรุ่น ตั้งแต่เก๋งเล็กไปจนถึงเก๋งขนาดกลาง และมีโอกาสจับใส่ในพีพีวีรุ่นดังอย่างฟอร์จูนเนอร์เช่นกัน

ปัจจุบันโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มี “คัมรี่ ไฮบริด” ทำตลาดอยู่แล้ว และเร็วๆนี้กำลังจะได้น้องใหม่อย่าง “ซี-เอชอาร์” เข้ามาเสริมทัพอีก 1 รุ่น

ทั้งนี้ มีการยืนยันว่า “ซี-เอชอาร์” (C-HR) จะวางเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร และรุ่นไฮบริด เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ราคา 9 แสนบาท-1.2 ล้านบาท พร้อมเผยโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่จัดระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมนี้ ที่ชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี

นอกจากนี้บริษัทยังเปิดตัว ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ (ROCCO) รุ่นตกแต่งพิเศษ โดยมีการติดตั้งชุดแต่งพิเศษรอบคันทั้งภายนอกและภายในที่แตกต่างจาก รุ่นธรรมดา พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

งานนี้โตโยต้าไม่ได้มาเล่นๆ เพราะนอกจากจะนำ “ซี-เอชอาร์” มาอวดโฉม 2 คัน (สีแดงและสีนํ้าเงิน) ยังเปิดรับพรีบุ๊กกิ้งทันที โดยลูกค้าไม่ต้องวางเงินจอง หรือเป็นการจองสิทธิ์ซื้อเอาไว้ก่อน (วางเงินจองเหมือนการซื้อ-ขายทั่วไปไม่ได้ เพราะโตโยต้ายังไม่ได้ประกาศราคา)

อย่างไรก็ตามก่อนที่โตโยต้าจะเปิดตัว“ซี-เอชอาร์” ในประเทศไทย ได้เชิญสื่อมวลชนไปเรียนรู้และสัมผัสกับนวัตกรรมของรถยนต์รุ่นนี้ถึงประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่สนามเซ็นทรัล เซอร์กิต ในจังหวัดเฮียวโงะ เพื่อร่วมกิจกรรมภายใต้หัวข้อ Hybrid & TNGA Riding Experience

ขณะที่แบตเตอรี่ไฮบริด เป็นเจเนอเรชันที่ 4 ตัวขั้วไฟฟ้าภายในแบตเตอรีและที่วางแบตเตอรี่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการชาร์จดีขึ้น 28% รวมไปถึงช่วยทำให้ขนาดแบตเตอรี่ลดลง 10% ซึ่งการพัฒนาเส้นทางระบายความร้อนภายในแบตเตอรี ทำให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนดีขึ้น โดยแบตเตอรีไฮบริดที่เบา ขนาดกะทัดรัด และวางตำแหน่งใหม่ใต้เบาะหลังก่อให้เกิดจุดศูนย์ถ่วงที่ตํ่าลงและการเข้าโค้งที่มั่นคงยิ่งขึ้นขณะเดียวกันโตโยต้ายัง เคลมว่า รถไฮบริดรุ่นใหม่จะประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเจเนอเรชันที่ 3 ถึง 25.2%

หลังเรียนรู้เรื่องเทคนิคกันพอสมควร ทีมงานได้แบ่งสื่อมวลชนออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้นั่งในซี-เอชอาร์ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ไฮบริด ที่วิ่งบนท้องถนนจริง และกลุ่มที่ 2 ได้ทดลองนั่งในแทร็กของสนามเซ็นทรัล เซอร์กิต โดยจะจำลองสถานการณ์เสมือนการขับขี่บนทางด่วน สามารถใช้ความเร็วสูงได้ (ทั้ง 2 กลุ่มจะมีนักแข่งมาขับให้)

“ฐานยานยนต์” อยู่ในกลุ่มที่ 1 ของการทดสอบ เมื่อแรกสัมผัสรถยนต์รุ่นนี้อย่างใกล้ชิด พบว่าตัวรถดูไม่ใหญ่เทอะทะ รูปทรงโฉบเฉี่ยว เชื่อว่าขับไปที่ไหนก็เท่ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย แต่จุดที่ไม่ถูกใจน่าจะเป็นที่เปิดประตูด้านหลัง อยู่ในมุมที่สูง และไม่ถนัดมือ นอกจากนั้นกระจกของห้องโดยสารด้านหลังที่อยู่สูง ทำให้มองไม่เห็นวิวด้านนอก มีผลทำให้ห้องโดยสารด้านหลังดูแคบๆ อึดอัดไปสักนิด

เมื่อถึงเวลาล้อหมุน สเตชันแรกจะวิ่งบนถนนจริงด้วยระยะทาง 17 กิโลเมตร เริ่มแรกจะเจอถนนขรุขระ ตรงจุดนี้ต้องการให้รับทราบถึงความนุ่มนวล และการทำงานของระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ที่แม้จะเจอกับสภาพถนนที่ไม่ราบเรียบแต่ยังนั่งสบาย

เมื่อรถหยุดเพราะติดสัญญาณไฟ ตัวมอเตอร์จะหยุดทำงาน มีผลด้านการประหยัดเชื้อเพลิง และเมื่อออกตัวอีกครั้ง มอเตอร์ก็จะเพิ่มความเร็วได้ทันที โดยการทำงานจะไม่ส่งเสียงดังเข้ามารบกวนห้องโดยสาร?สเตชันต่อมา เป็นการทดลองนั่งบนสนามแข่ง โดยจำลองสถานการณ์เหมือนขับขี่บนทางด่วน ซึ่งผู้ขับจะใช้ความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นในรอบที่ 2 ความเร็วจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในสเตชันนี้จะสัมผัสได้ถึงความหนึบ เกาะถนน แม้ในเวลาเข้าโค้งหรือในช่วงที่ถนนแคบรถก็ยังตอบสนองได้ดี

สำหรับโตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด ที่ได้สัมผัสกันในครั้งนี้ ถือเป็นสเปกที่ขายในญี่ปุ่น ส่วนรุ่นที่ผลิตและทำตลาดในประเทศไทย คงต้องปรับซอฟต์แวร์ เซ็ตช่วงล่าง เบรก ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน และพฤติกรรมผู้ขับขี่ ที่เน้นความนุ่มนวลเป็นสำคัญ

เช่นเดียวกับขุมพลังที่ในตลาดโลกมี บล็อก 1.2 ลิตร เทอร์โบ,2.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ และไฮบริด (เครื่องยนต์1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า) แต่เมืองไทยจะมีไฮบริด และเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.8 ลิตร เพื่อท้าชนเต็มๆกับคู่แข่งอย่างฮอนด้า เอชอาร์-วี

ส่วนคำถามข้องใจว่า แบตเตอรี่ในรถไฮบริดควรเป็นแบบนิกเกิลเมทัลไฮดราย หรือ ลิเทียมไอออน ประเด็นนี้ทีมวิศวกรโตโยต้าชี้แจงว่า “ในระดับโกลบัล โตโยต้ามีการใช้แบตเตอรี่ทั้งแบบนิกเกิลเมทัลไฮดราย และ?ลิเทียมไอออน แต่สำหรับรุ่น ซี-เอชอาร์ที่จำหน่ายทั่วโลก หรือรถที่เป็นไฮบริด จะใช้แบตเตอรี่ที่เป็นนิกเกิลเมทัลไฮดรายโดยมองในแง่สมรรถนะถือว่าไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อมาดูถึงการรับประจุไฟฟ้าหรือการคายประจุไฟฟ้าแล้ว นิกเกิล เมทัลไฮดรายทำได้ดีกว่า และยืนยันว่าเทคโนโลยีก็ไม่ได้ล้าหลังแต่อย่างใด ส่วนการรีไซเคิลนั้น ด้วยส่วนผสมที่มีโลหะ 2 ชนิดคือนิกเกิลเมทัลไฮดรายและโคบอลต์ ก็สามารถที่จะนำมารีไซเคิลได้ 100%”



ความคิดเห็นผ่าน Facebook



ข่าวน่าสนใจ Hot News
ปตท.-ฟ็อกซ์คอนน์ จับมือปั้นไทยฮับผลิต EV
นิสสัน เสริมตลาดปิกอัพ "นาวารา ซิงเกิล แค็บ"
ไทรอัมพ์ฯ เผย 5โมเดลใหม่ล่าสุด บอนเนวิลล์ 2021
ดูคาติ ตัวแทนใหม่ “โมโตเร อิตาเลียโน่” เปิดโชว์รูมบนตึกอาวดี้
สยามคูโบต้า หนุนทำ Smart Farmer รับแรงงานรุ่นใหม่
ยันม่าร์ เปิดตัวรถเกี่ยวข้าว ตู้แอร์ YH1180 Cabin
เปิดตัว! จอบหมุน ฟาร์มเทค พรีเดเตอร์ แกร่ง แรง เร็ว







หมวดยานยนต์-แทรกเตอร์ โปรโมชั่น-ข่าวเด่น-รีวิว 108เอ็นจินดอทคอม
รถอีวี /รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โปรโมชั่นรถยนต์ /รถแทรกเตอร์ /จักรยานยนต์ หน้าแรก108engine.com
รถอีโคคาร์ ข่าวรถยนต์-รถไฟฟ้า ข้อตกลงการใช้งาน
รถกระบะ-รถอเนกประสงค์ ข่าวรถแทรกเตอร์-SMART FARM นโยบายความเป็นส่วนตัว
รถแทรกเตอร์ ข่าวรถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์ ติดต่อโฆษณา Advertise With Us
รถเกี่ยวนวดข้าว MOTOR SHOW / TRACTOR SHOW ติดต่อเรา Contact Us
รถจักรยานยนต์ ทัวร์ร้านค้ายานยนต์ทั่วไทย  
รถบิ๊กไบค์ รีวิว รถยนต์-รถอีวี  
เครื่องยนต์อเนกประสงค์ รีวิว รถจักรยานยนต์-รถบิ๊กไบค์  
Follow us
   
Copyright © 2000 - 2024  108Engine Dot Com All Rights Reserved
 
cheap air max|cheap air jordans|pompy wtryskowe|cheap huarache shoes| bombas inyeccion|cheap jordans|cheap sneakers|wholesale jordans|cheap china jordans|cheap wholesale jordans|cheap jordans|wholesale jewelry china