|
ขอบคุณข้อมูล MGR Online (25 เม.ย. 2560) [1496 Views]
|
เปิดบทสัมภาษณ์ โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุ เซลส์ จำกัด ผู้กุมบังเหียน อีซูซู เจ้าตลาดปิกอัพของไทย ถึงทิศทางของตลาดรถยนต์ในปีนี้ที่ อีซูซุมองมุมบวกอย่างมาก ด้วยการปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดมียอดขายดีเกินคาดตั้งแต่ต้นปีแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่สดใสของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้
ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปีนี้ ?
อีซูซุคาดตลาดรถรวมปีนี้ 810,000 คัน (ซึ่งอีซูซุคาดการณ์สูงกว่าเจ้าอื่น) ดีกว่าปีก่อนที่มียอดขาย 768,788 คัน โดยที่ผ่านมา 3 เดือนแรก ตลาดดีเกินคาดอาจมีการปรับเป้าเพิ่ม ขอรอดูหลังสงกรานต์ ถ้าความต้องการยังไม่ตก ก็น่าจะมีแนวโน้มดีทั้งปี ทั้งนี้เกิดจากความรู้สึกที่ดีขึ้นของผู้บริโภค จากภาคการส่งออกที่กระเตื้องขึ้น ราคาพืชผลพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นบางประเภท เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อย รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐด้านสาธารณูปโภคและเกษตร
ปัจจัยสำคัญ?
ภาคเศรษฐกิจมีผลต่อการซื้อรถ อีซูซุสังเกตได้จากรถบรรทุกกลางและใหญ่ที่เข้าศูนย์ฯ มากกว่าเดิม และยอดสินเชื่อของอีซูซุเองคือ ตรีเพชรอีซูซุลีสซิ่งซึ่งเป็น in-house ลิสซิ่งของอีซูซุเองได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น. มีสัดส่วน 30% ของยอดซื้อรถอีซูซุ ขณะที่ลูกค้าเงินสด 10%
ยอดขายอีซูซุเป็นอย่างไร?
ยอดขายอีซูซุ 3 เดือนแรกของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ดีขึ้นมากกว่า 10% ปิกอัพประมาณ 3% อีซูซุไม่ค่อยสนใจเรื่องส่วนแบ่งตลาดหรือเป้าตัวเลขมากนัก สนใจเรื่องสถานการณ์ตลาด และเน้นความพอใจของลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายเป็นหลัก ถ้าตลาดโตเราก็ได้ผลพลอยได้ไปด้วย
ส่วนการส่งออกปีนี้ไม่น่าดี เพราะตะวันออกกลางที่เป็นตลาดส่งออกใหญ่ของอีซูซุไม่สงบ รัฐตัดงบช่วยเหลือด้านต่างๆ ทำให้ดีลเลอร์ยังมีสต็อคอยู่ ถ้าได้เท่าเดิมถือว่าดีแล้ว สำหรับตัวเลขส่งออกปีที่แล้วรวม 160,000 คัน เดิมเคยส่งออกให้ตะวันออกกลาง 30,000 คัน แต่ลดลงเกือบ 50% แต่โชคดีในตลาดส่งออกที่ฟิลิปปินส์และออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมากถึง 20% (ออสเตรเลีย 24,000 คันต่อปี และฟิลิปปินส์ 20,000 คันต่อปี) ส่วนที่ยุโรปยังคงที่ดีอยู่
ขณะที่ยอดขายที่กัมพูชากับลาวยังน้อยอยู่ เพราะขายได้แค่ครึ่งปี และประเมินจากยอดจดทะเบียนยังไม่ได้ คิดได้จากสถิติอิมพอร์ตอย่างเดียว แต่ถ้านับตั้งแต่ที่ตรีเพชรเข้าไปดูแล ทำตลาดด้วยตนเองก็ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 20% ทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ตลาดกัมพูชายาก เพราะค่านิยมใช้รถ used 90% รถใหม่ 10%
ทิศทางของรถเก๋งเทียบกับปิกอัพ?
มาร์เก็ตแชร์รถเก๋งกับปิกอัพแต่ละปีจะแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าไหนออกรถใหม่มากกว่ากัน แต่แนวโน้มยังเป็นปิกอัพมากกว่า เพราะวัตถุประสงค์การใช้งานต่างกัน แต่ในกลุ่มของปิกอัพเองจะปรับเปลี่ยนตามรุ่นที่ขาย ซึ่งรุ่น 4 ประตู (crew cab) มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น มีสัดส่วนที่ 35% ส่วนรุ่นตอนครึ่ง (extended cab) 50% รุ่นตอนเดียว (single cab) 15%
ตอนนี้โครงการรถคันแรกครบ 5 ปีแล้ว อีซูซุกำลังสนใจว่าลูกค้ากลุ่ม eco car จะเปลี่ยนมาใช้รถอะไร ซึ่งกลุ่มที่น่าจะเปลี่ยนรถใหม่ประเมินที่ 10% เพราะคนไทยส่วนใหญ่ใช้รถนานกว่า 5 ปี
แผนการในอนาคต?
ปัจจุบันอีซูซุมีกำลังผลิต 400,000 คัน ยังไม่มีแผนขยายเพราะยังเพียงพออยู่ สำหรับเรื่อง EV อีซูซุขอดูมาตรการภาครัฐว่าจะสนับสนุนอย่างไร ยังขอไม่ตัดสินใจใดๆ เพราะการทำแผนธุรกิจต้องพิจารณาหลายด้าน และระยะเวลาเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องดูทั้งรัฐบาลและการตอบรับของลูกค้าเป็นสำคัญ อีซูซุมีเทคโนโลยีไฮบริดอยู่แล้ว แต่ถ้าทำออกมาลูกค้ามีปัญหาเราจะไม่ทำ ซึ่งลูกค้ารถปิกอัพตอนนี้ไม่สนใจไฮบริด
ถึงบรรทัดนี้ เจ้าตลาดปิกอัพมองภาพตลาดสดใสพร้อมปัจจัยเกื้อหนุนจากรากหญ้า คงเหลือเพียงภาครัฐที่จะเดินหน้าสานต่อให้ปิกอัพเป็นโปรดักซ์แชมเปี้ยนหรือจะสกัดดาวรุ่งด้วยข้อกฎหมายแบบที่ชาวบ้านร้องกันระงม คงแล้วแต่ท่านจะพิจารณา
|