|
ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจ (21 มิ.ย. 2560) [1406 Views]
|
วานนี้ (20 มิ.ย.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องลดภาษีสรรพสามิตให้รถยนต์ ไฮบริดและพลังงานไฟฟ้า(อีวี) ในส่วน ปิกอัพ ดับเบิลแค็บและ พีพีวี หากใช้ขุมพลังลูกผสม พิกัดเครื่องยนต์ไม่เกิน 3,250 ซีซีกับมอเตอร์ไฟฟ้า ปล่อยไอเสียต่ำกว่า 175 กรัม./กม. ให้ลดภาษีลงมาอีก 2% ลุ้น อีซูซุ ยื่นขอรับสิทธิ์ส่งเสริม การลงทุนทำมิว-เอ็กซ์ ดีเซลไฮบริด
ตามที่นสพ.ฐานเศรษฐกิจเคยรายงานข่าว อีซูซุเล็งดีเซลไฮบริด จัดปิกอัพ-พีพีวีรับแต้มต่อภาษี ไปเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รายละเอียดว่า กระทรวงการคลังเล็งสนับสนุนปิกอัพไฮบริดตัวถังดับเบิลแค็บ ที่ปล่อยไอเสียต่ำกว่า 175 กรัม/กม.จะลดการเก็บภาษีจาก 12%เหลือ 10% เช่นเดียวกับพีพีวีจาก 25% จะลดเหลือ 23%
ล่าสุดประกาศของกระทรวงการคลังยืนยันว่า ให้รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Pick - up Passenger Vehicle: PPV) ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และเป็นรถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า (Hybrid Electric Vehicle) ซึ่งมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 175 กรัม/กิโลเมตร ได้รับการลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงเหลือร้อยละ 23
ขณะที่รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (Double Cab) ความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี และเป็นรถยนต์แบบผสม ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง และไฟฟ้า (Hybrid Electric Vehicle) ซึ่งมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 175 กรัม/กิโลเมตร ได้รับการลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงเหลือร้อยละ 10 ทั้งนี้ รถยนต์ดังกล่าวต้องมีคุณลักษณะ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
โดยการลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิตดังกล่าวบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
1.ต้องได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จากสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
2.ต้องยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับการลดอัตราภาษีสรรพสามิต และทําข้อตกลงกับ กรมสรรพสามิตก่อนเริ่ม การผลิตรถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า (Hybrid Electric Vehicle) หรือรถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2563
3.ตั้งแต่ปีที่ 5 นับแต่วันที่ลงนามในข้อตกลงกับกรมสรรพสามิตจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2568 รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า (Hybrid Electric Vehicle) หรือ รถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) ที่ผลิตทุกคัน ต้องใช้แบตเตอรี่ที่ผลิต หรือประกอบจากผู้ที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจากสํานักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประเภท ลิเธียมไอออน หรือนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ หรือแบตเตอรี่ประเภทอื่นที่ให้พลังงานจําเพาะ โดยน้ำหนัก (Wh/kg) ที่สูงกว่าประเภทลิเธียมไอออนหรือนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นปิกอัพหรือพีพีวีไฮบริด ยังไม่มีการยืนยันออกมาจากอีซูซุ แต่ โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตรีเพชรอีซูซุ เชลส์ จำกัด เคยตอบคำถามผู้สื่อข่าวในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2017 ไว้ว่า จากแนวทางสนับสนุนรถยนต์อีวี-ไฮบริดของรัฐบาล ทางอีซูซุมีความสนใจเพราะมีเทคโนโลยีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไรเพราะต้องดูนโยบายเงื่อนไขต่างๆจากภาครัฐก่อน
ส่วนโตโยต้ามีสิทธิ์พัฒนา ฟอร์จูนเนอร์ ไฮบริดเช่นกัน(น่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน) ตามแผนงานระดับโลก ที่ต้องการเพิ่มเทคโนโลยีไฮบริดในรถยนต์ที่เป็นคอมมอนโปรดักต์ ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนระลอกใหม่ในเมืองไทย
|