  |
ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (8 ก.พ. 2560) [3726 Views]
|
สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น เผยยอดขายทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ปี 2559 มียอดขายรวมปิดที่ 50,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปี 2560 เติบโตขึ้น 10% ประกาศรุกตลาดพืชไร่อย่างต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อนเกษตรกรรมไทย ให้เป็นเกษตรกรรม 4.0 ด้วยแนวคิด KUBOTA (Agri) Solutions ทุกคำตอบเรื่องการเกษตร
นายฮิโรโตะ คิมุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด แถลงผล การดำเนินงานประจำปี 2559 ระบุว่า บริษัทฯ มียอดขายมูลค่ารวมปิดที่ 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 27,000 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 23,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2558 เนื่องมาจากยอดขายต่างประเทศมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่วนในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะเติบโตขึ้น 10%
สำหรับตลาดต่างประเทศ จากที่บริษัทฯได้เข้าไปดำเนินธุรกิจและส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา พบว่า ประเทศเมียนมามีตลาดที่เติบโตมากที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่เพาะปลูกจำนวนมาก จึงเป็นตลาดที่ใหญ่และเกษตรกรยังมีความต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร ประกอบกับมีจำนวนครัวเรือนในภาค เกษตรกรรมอยู่มาก รองลงมาคือกัมพูชา และสปป.ลาว ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ ได้แก่ รถไถเดินตาม เครื่องยนต์ดีเซล แทรกเตอร์ และรถเกี่ยวนวดข้าว ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทฯได้มีการพัฒนาเครือข่าย ทั้งการขายและบริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการหาพันธมิตรทางการเงิน เพื่อเพิ่มความสามารถในการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ ของลูกค้าที่มีกำลังซื้อน้อย พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆเข้าสู่ตลาด เพื่อเพิ่มความเหมาะสม กับพืชที่ปลูกและสร้างโอกาสในการเป็นเจ้าของเครื่องจักรกลการเกษตรได้ง่ายขึ้น
จากความมุ่งมั่นในการขยายตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของคูโบต้ากระจายตัวครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ในปีนี้บริษัทฯจึงได้มีการ ร่วมทุนกับคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) จัดตั้งบริษัทขึ้นในประเทศ เมียนมา โดย คูโบต้า ประเทศญี่ปุ่น ถือหุ้น 80% และสยามคูโบต้า ถือหุ้น 20% นายคิมุระ กล่าวเพิ่มเติม
ในส่วนทิศทางการดำเนินงานตลาดในประเทศของสยามคูโบต้าในปีนี้ นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโสบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปัจจุบันการแข่งขันการผลิต ภาคการเกษตรในระดับโลกสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรต้องทำการเกษตรแบบลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ซึ่งจำเป็นต้องใช้นวัตกรรม ด้านการเพาะปลูกสมัยใหม่ที่มีความแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งนโยบายของภาครัฐที่ขับเคลื่อนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกัน ซื้อปัจจัยการผลิต รวมกันผลิต และรวมกันขายมากขึ้น ภายใต้โครงการ เกษตรแปลงใหญ่ โดยมีเกษตรกร ภาครัฐ และเอกชน เข้าไปร่วมกันพัฒนาให้กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือที่เรียกว่า เกษตรกรรม 4.0 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯได้มุ่งเน้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ ความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มข้าว พืชไร่ และเกษตรกรที่ปลูกพืชหลายชนิด (multi-crop) มาอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้บริษัทฯได้วางแผนที่จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในส่วนของ เครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อการเก็บเกี่ยว ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่อง การใช้แรงงานคนจำนวนมากในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งเป็นปัญหาหลักของเกษตรกร นอกจากนี้ บริษัทฯจะทำการ ตลาดควบคู่ไปกับการให้ความรู้และโซลูชั่นด้านการเกษตร ส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรให้เพิ่ม มากขึ้น เพื่อช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตในการทำเกษตร ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการเกษตรของไทยมีการเติบโตอย่างยั่งยืน
เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และขับเคลื่อนเกษตรกรรมไทยให้เป็น เกษตรกรรม 4.0 ตามนโยบายของภาครัฐ ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้พัฒนาระบบการจัดการเกษตรแบบครบวงจรขึ้น ภายใต้ชื่อ KUBOTA (Agri) Solutions ทุกคำตอบเรื่องเกษตร ซึ่งจะช่วยยกระดับเกษตรกรรมไทย ด้วยนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรม การเพาะปลูก ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนจากการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เป็นการปลูกพืชผสมผสาน การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว และการขนส่งผลผลิต เพื่อช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มปริมาณผลผลิต สร้างคุณภาพผลิตภัณฑ์ และเพิ่มรายได้ ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวนี้จะเป็นกลยุทธ์หลักที่จะใช้ในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯต่อไปในอนาคต
|