 |
ขอบคุณข้อมูล MGR Online (7 เม.ย. 2019) [1259 Views]
|
เข้าสู่เดือนเมษายนนี้จะเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปี ของการบุกเบิกธุรกิจใหม่ คับเฮ้าส์(CUB House) ภายใต้แบรนด์รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ด้านผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ลูกค้าชาวไทยให้การตอบรับขนาดไหน รวมถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจที่กำลังเข้าสู่ปีที่ 2 นี้จะเป็นอย่างไร...วิวัฒน์ เลิศผาติ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานธุรกิจมูลค่าเพิ่ม บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด พร้อมให้คำตอบ
ยอดขายทะลุเป้า 4,000 คัน
เอ.พี.ฮอนด้า เปิดตัวธุรกิจใหม่ ภายใต้ร้านไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ คับเฮ้าส์ CUB House The First Moto Lifestyle Caf? and Showroom by Honda เมื่อช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่เป็นตำนานของฮอนด้า ได้แก่ รุ่นมังกี้ (Monkey) และ ซี125 (C125) สาขาแรกบนถนนเอกมัย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
สำหรับยอดขายในปีที่ผ่านมา จากจำนวน 9 สาขา ที่มีอยู่ ทำได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,000 คัน แบ่งเป็นสัดส่วน 50:50 ของรุ่นมังกี้ และซี125 ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ขยายเครือข่ายรวม 17 แห่ง ฟันรายได้แตะพันล้านบาท
ด้านช่องทางจำหน่ายขณะนี้มีสาขา 9 แห่ง ได้แก่ เอกมัยซอย 3, อุดรธานี, ขอนแก่น, ชลบุรี, สุราษฎร์ธานี, หาดใหญ่, เพชรบุรี, เชียงราย และภูเก็ต จากยอดขายรวมทุกที่ สามารถสร้างรายได้ประมาณ 4-5 ร้อยล้านบาทต่อปี
ขณะที่แผนการขยายเครือข่าย ล่าสุด กำลังจะเพิ่มที่เชียงใหม่เร็วๆ นี้ ส่วนตลอดทั้งปี 2562 ตั้งเป้าจะเพิ่มรวมทั้งหมดเป็น 17 แห่ง คาดหวังว่ายอดขายจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปีก่อน อยู่ที่ 8,000 คัน และเพิ่มรายได้รวมทั้งปีถึงหลักพันล้านบาท
เติมความสนุก Start By Us, Finish By You
สำหรับกลยุทธ์การตลาด ฮอนด้าต่อยอดแบรนด์แมสเซส ในปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด Start By Us, Finish By You เริ่มที่เรา จบที่คุณ เพื่อให้ทุกคนสนุกกับการตกแต่งรถตามสไตล์ของตัวเอง
จากข้อมูลที่เรามี รถทุกๆ คันที่ขายไป โดยเฉลี่ยจะใช้งบเพื่อการตกแต่งประมาณ 1 หมื่นบาท ซึ่งเราอยากให้ลูกค้ามีความสุขกับการตกแต่งรถมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการเน้นเรื่องดีไอวาย(D.I.Y.) ด้วยตัวเอง พร้อมมีการปล่อยบ็อกเซต DIY Tool Set เป็นตัวช่วยให้จินตนาการเป็นจริงได้ง่ายขึ้นสนุกขึ้น โดยแนวคิดนี้จะเริ่มประกาศใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ที่งานมอเตอร์โชว์ปี 2019 นี้เป็นต้นไป
เอาใจนักสะสม ปล่อยลิมิเต็ดไม่เกิน 100 คัน
ลูกค้าของคับเฮ้าส์เอาส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักสะสม มีความเป็นตัวเอง ชอบอะไรที่มีความเฉพาะตัวสูงมาก เพราะฉะนั้นเขาจะชอบอะไรที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้น การเปิดตัวลิมิเต็ดอิดิชั่นจึงเป็นที่ต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้
ปีก่อนในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เราจับมือสำนักแต่ง H2C และ MORIWAKI แต่งโฉมมังกี้ และ ซี125 ภายใต้แนวคิด Never Over A hundred ผลิตจำนวนจำกัดรุ่นละ 100 คัน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ขายหมดเกลี้ยง
พอมาปีนี้ในงานมอเตอร์โชว์ จึงต่อยอดแนวคิดเดิม นำเสนอรถแต่ง 6 รุ่น 6 แบบจาก 3 พาร์ทเนอร์ ได้แก่ Kitaco, G-craft และ Bikers พร้อมจับมือแบรนด์โช้กอัพแต่ง Showa จากญี่ปุ่น นำเสนอมังกี้ เวอร์ชั่นพิเศษ รวมถึงมีชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ด้วยแพ็คเกจ Galespeed & Active Performance Set ให้ลูกค้านำไปติดตั้งเพิ่มเติมได้ด้วย
ลุ้นโมเดลระดับตำนานในอนาคต
สำหรับโมเดลที่ทำตลาด ปัจจุบันมี 2 รุ่น คือ มังกี้ และ ซี125 ซึ่งในอนาคตจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ ตอบว่ามีแน่นอน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ในตอนนี้ ฮอนด้าพยายามจะตอบโจทย์ลูกค้าให้ครบทุกด้านอยู่แล้ว
ขณะเดียวกันนอกจากการสนุกกับการตกแต่งรถจักรยานยนต์ ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งจากเดิม 5 แบรนด์ชั้นนำ ขณะนี้เรามีพันธมิตรเพิ่มเป็น 7 สำนักแต่ง ด้านแฟชั่นเสื้อผ้าก็มีแบรนด์เกรฮาวด์ และล่าสุด จับมือกับกระเป๋า Stream Trail แบรนด์ชื่อดังจากญี่ปุ่น ที่เน้นการคัดเลือกวัสดุและดีไซน์ เพื่อตอบสนองความต้องการได้หลากหลายยิ่งขึ้น.
| 
