 |
ขอบคุณข้อมูล MGR online (8 พ.ค. 2019) [1356 Views]
|
ร้อนแรงกว่าสภาพอากาศชั่วโมงนี้ต้องยกให้ ฮอนด้า ซีบีอาร์ 250อาร์อาร์ (CBR25RR) สุดยอดรถสปอร์ตสายพันธุ์แข่ง โมเดลนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2019 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
ที่ว่าฮอตสุดๆ เพราะได้รับความสนใจจากเหล่าไบค์เกอร์เป็นอย่างมาก แม้ว่ารถสปอร์ตพิกัด 250-300 ซีซี. ที่ทำตลาดในบ้านเรา ค่าตัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาท แต่เจ้า ซีบีอาร์ 250อาร์อาร์ รุ่นนี้ เปิดราคาจำหน่ายแนะนำที่ 249,000 บาท แพงกว่าคู่แข่งทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม แพงกว่าก็จริง แต่ด้วยออฟชั่นติดรถที่ให้มา ตามสเป็กรหัสความแรง RR (Racing Replica) สายตรงเทคโนโลยีรถแข่งแชมป์โลกโมโตจีพี นั่นจึงไม่แปลกใจเลยกับตัวเลขยอดจองภายในงาน ซึ่งทำได้สูงถึง 169 คัน
ขณะเดียวกันเพื่อให้เกิดข่าวความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ค่ายปีกนกได้จัดกิจกรรมการทดสอบขับขี่ ภายใต้ชื่อ The Premiere Track Experience ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมเชิญลูกค้ากลุ่มแรกจำนวน 9 คน ที่ให้ความสนใจและ ตัดสินใจซื้อรถสปอร์ตน้องใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ ได้เปิดประสบการณ์ครั้งแรกร่วมกับสื่อมวลชน แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ในสนามระดับโลก
สปอร์ตพันธุ์แข่ง แรงระดับมาสเตอร์
โมเดลใหม่ล่าสุดเมดอินเจแปนรุ่นนี้ พัฒนาขึ้นจากคอนเซปต์ Beating Master สปอร์ตพันธุ์แข่ง แรงระดับมาสเตอร์ ถ่ายทอดดีเอ็นเอจากเรซแมชชีนที่ร่วมชิงชัยในคลาส 250 ซีซี. รายการเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ
ดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยวดุดัน ไฟหน้าคู่ LED 2 ชั้น เส้นสายแฟริ่งปราดเปรียวลู่ลมตามหลักแอโร่ไดนามิกส์ พร้อมช่อง Air Duct ที่แฟริ่งข้าง ช่วยเสริมการระบายความร้อน โครงสร้างเฟรมถัก Truss Frame ออกแบบด้วยเทคโนโลยี CAE (Computer Aided Engineering) ให้สมดุลน้ำหนักบาลานซ์ได้ดี สวิงอาร์มอะลูมิเนียมใช้เทคนิคการหล่อขึ้นรูปแบบ GDC (Gravity Die Casting) แข็งแรงและน้ำหนักเบา
ออฟชั่นติดรถขั้นเทพ
มิเตอร์เรือนไมล์แบบดิจิตอล ครบครันด้วยมาตรวัดความเร็ว มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ไฟเตือนรอบเปลี่ยนเกียร์ Shift Lighter ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ไฟบอกโหมดการขับขี่ มาตรวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง มาตรวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ และเหนืออื่นใด มี Lap Timer โหมดจับเวลาในแต่ละรอบขณะขับขี่ในสนามแข่งขันด้วย
สำหรับขุมพลัง เครื่องยนต์ขนาด 250 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว 2 สูบเรียง เสื้อสูบอะลูมิเนียม ลูกสูบเคลือบโมลิบดีนัม ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมเทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า THROTTLE-BY-WIRE ตอบสนองรวดเร็วทันใจ สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 ระดับ COMFORT, SPORT และ SPORT+
ต่อเนื่องที่ระบบช่วงล่างติดตั้งโช้กหน้าหัวกลับ Upside-Down จาก Showa และโช้กหลังขนาดใหญ่แบบโปรลิงค์ สามารถปรับความแข็งได้ 5 ระดับ ส่วนความปลอดภัยมีเบรก ABS แบบ 2 Channel ทำงานเป็นอิสระ แยกหน้า-หลัง
บิดสนุกเร้าใจเกินพิกัด
การทดสอบในสนามระดับโลกที่ใช้จัดการแข่งขันโมโตจีพี สัมผัสแรกท่านั่งผมว่าถอดแบบมาจากตัวแข่งจริงๆ เพราะรู้สึกได้ถึงความกระชับ มั่นใจ ตำแหน่งแฮนด์บังคับ เบาะนั่ง พักเท้า เป็นตำแหน่งที่จัดวางได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การควบคุมทำได้ง่ายและคล่องตัว
ด้านสมรรถนะการขับขี่ ความสนุกอันดับแรกคือเรื่องของเสียง ซึ่งไหลผ่านช่องทางเดินอากาศแบบ Downdraft จะค่อนข้างดัง ถามว่าดังแบบไหน เสียงคล้ายๆ การใช้กรองเปลือย ใครที่เคยแต่งรถคงรู้ดี
ส่วนกำลังความแรง บอกเลยว่าจัดจ้านถึงใจ รอบเครื่องยนต์สามารถเร่งได้สูงถึง 14,000 รอบต่อนาที อารมณ์การขับขี่รถสปอร์ตในพิกัดนี้มี ซีบีอาร์ 250อาร์อาร์ เพียงรุ่นเดียวที่ทำได้
แต่อย่างไรก็ตาม จุดเด่นอาจกลายเป็นจุดด้อย เมื่อใช้งานบนท้องถนน หากบิดต่ำกว่า 8,000 รอบต่อนาที ผมรู้สึกว่าตัวรถให้การตอบสนองที่เชื่องช้าไปพอสมควร
ขณะที่ในส่วนของระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง รวมถึงระบบเบรก มีประสิทธิภาพเหลือเฟือ การลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง ขณะแบนรถในโค้ง หรือการเติมคันเร่งเพื่อทะยานออกจากโค้ง ตัวรถมีความเสถียร ทรงตัวนิ่ง ไม่ออกอาการให้กังวลใดๆ
สรุปในภาพรวมหลังทำความรู้จักครั้งแรก ฮอนด้า ซีบีอาร์ 250อาร์อาร์ ถ้าเทียบกับคู่แข่งในคลาส 25-300 ซีซี. ยืนยันอีกครั้ง แม้จ่ายแพงกว่า แต่ก็ได้อรรถรสการขับขี่ที่เหนือกว่า ให้ความสนุกเร้าใจมากกว่าตัวเลือกอื่นในพิกัดเดียวกัน
รหัส RR แตกต่างตรงนี้แหละ.
| 
