ขอบคุณเนื้อหา ฐานเศรษฐกิจ (20 เม.ย. 2020) [1560 Views] Tweet

ธุรกิจขนส่งออนดีมานด์รุ่งในยุคโควิด-19 ช่วยดันยอดรถออโตเมติก“ยามาฮ่า”โต 2.9% สวนทางตลาดรวม พร้อมตอกยํ้าเทรนด์ด้วยการเปิดตัว NMAX โฉมใหม่ ราคา 85,900 บาท ด้าน “ฮอนด้า” - “ซูซูกิ” งัดกลยุทธ์กระตุกยอดขายด้วยการปรับโฉม-เพิ่มสี

ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไตรมาสแรกปี 2563 (มกราคม - มีนาคม) ทำได้ 431,004 คัน ลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 462,205 คัน โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดหดหายเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง ราคาสินค้าทางการเกษตรที่ฟื้นตัวช้า ประกอบกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

เมื่อดูยอดจดทะเบียนของยี่ห้อต่างๆ พบว่า ฮอนด้า ทำได้ 339,547 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ทำได้ 366,315 คัน, ยามาฮ่า ทำได้ 62,835 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ทำได้ 67,507 คัน, เวสป้า 7,582 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ทำได้ 5,686 คัน เรียกว่ายอดขายลดลงกันเกือบทุกแบรนด์ ยกเว้นค่ายเวสป้าที่ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแม้ตัวเลขโดยรวมจะสะท้อนให้เห็นถึงยอดขายที่ชะลอตัว แต่บางเซ็กเมนต์ บางแบรนด์กลับมียอดขายขยับเพิ่มขึ้น โดยแหล่งข่าวจากบริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงวิกฤติโควิด-19 จะชะลอการซื้อลงไป และทางไฟแนนซ์ก็ปล่อยกู้ยากขึ้น แต่ตลาดรถออโตเมติก (เอ.ที.) ของยามาฮ่า ในช่วงไตรมาสแรกยังโต 2.9%

การเติบโตดังกล่าวน่าจะเกิดจากการซื้อเพื่อไปใช้ในธุรกิจจัดส่งต่างๆ ทั้งในแบบอาชีพเสริมในช่วงตกงาน หรือ หารายได้พิเศษ และในส่วนของห้างร้านต่างๆ ที่ต้องการมีเจ้าหน้าที่จัดส่งเป็นของทางร้าน เพื่อความสะดวกในการจัดส่งสินค้าแก่ลูกค้า

“รถออโตเมติกของยามาฮ่า มีจุดเด่นในเรื่องการขับขี่ที่สะดวก เพราะเป็นเกียร์อัตโนมัติ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ จึงสามารถขี่ไปดูแผนที่ไปได้ และการเติมนํ้ามัน ก็ไม่ต้องเปิดเบาะ จึงไม่ต้องยกกล่องบรรทุกพัสดุออก ทั้งนี้ กำลังซื้อของรถออโตเมติกยามาฮ่านั้น ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจการจัดส่ง จึงอนุมานได้ว่า น่าจะมีปัจจัยส่งเสริมต่อกัน” แหล่งข่าวกล่าว

อานิสงส์จากธุรกิจขนส่งออนดีมานด์ ไม่ว่าจะเป็นแกร็บ, เก็ท, ไลน์แมน ที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในช่วงภาวะวิกฤติโควิด ทำให้ยามาฮ่าเดินหน้าเปิดตัวรถในเซ็กเมนต์เอ.ที. รุ่น NMAX 155 ที่มีให้เลือก 4 สี ราคาแนะนำ 85,900 บาท

สำหรับ NMAX เครื่องยนต์บลูคอร์ใหม่ 155 ซีซี 4 วาล์ว เจเนอเรชันใหม่ พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA ประหยัดนํ้ามัน การออกแบบดีไซน์ใหม่ สืบทอดสายพันธุ์ Max Series ไฟหน้า-ไฟท้าย แบบ Full LED ดิสก์เบรกล้อหน้า-หลัง พร้อมระบบเบรก ABS ทั้ง 2 ล้อ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key System ที่สามารถควบคุมรถได้ทั้งคัน และจัดเต็มฟังก์ชันอื่นๆ อีก อาทิ ดิจิทัลมิเตอร์ พร้อมสวิตช์เปลี่ยนโหมดที่แฮนด์, ช่องชาร์จแบตพร้อมช่องเก็บของด้านหน้า, ถังนํ้ามันขนาด 7.1 ลิตร ที่เก็บของใต้เบาะขนาด XL

ส่วนในกลุ่มโมเพด ที่แม้จะไม่มีรถใหม่ แต่ยามาฮ่าส่งแคมเปญรับประกันรถ ในรุ่นยามาฮ่า ฟินน์ ทุกรุ่น ที่ซื้อตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนาย 2563 รับประกันทั้งคัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง โดยยามาฮ่า ฟินน์ มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น UBS ราคา 47,000 บาท, รุ่นล้อแม็ก/สตาร์ตมือไฟฟ้า ราคา 45,000 บาท, รุ่นล้อซี่ลวด/สตาร์ต มือ ราคา 43,500 บาท และรุ่นล้อซี่ลวด/สตาร์ตเท้า ราคา 40,900 บาท

ขณะที่ค่ายคู่แข่งร่วมชาติอย่าง “ฮอนด้า” และ “ซูซูกิ” นั้น ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็เปิดตัวรถรุ่นใหม่ไม่ยั้ง โดยเฉพาะฮอนด้า ที่ไล่เรียงมาตั้งแต่บิ๊กไบค์ในรุ่น All New Africa Twin CRF1100L ที่เปิดครั้งแรกในไทย มาพร้อมราคา 5.59-6.99 แสนบาท แต่ในช่วงแนะนำได้ทำราคาพิเศษในรุ่นท็อปเหลือ 6.69 แสนบาท

นอกจากนั้นแล้ว ฮอนด้ายังส่งรุ่นตกแต่งพิเศษของ Rebel 500 Bobber Supreme Edition ที่ผลิตจำนวน 100 คัน ราคาแนะนำ 235,300 บาท หลังจากนั้นส่งบิ๊กไบค์อย่าง GOLDWING ไมเนอร์เชนจ์ ที่จัดเต็มเทคโนโลยี สนนราคา 1.34 ล้านบาท

ฮอนด้ายังเพิ่มสีใหม่ของ ADV150 ขาวแอดวานซ์ไวท์ และขยับราคาเล็กน้อย จากรุ่นปกติที่ขาย 97,900 บาท ในสีใหม่นี้ ขายอยู่ที่ 98,500 บาท อีกหนึ่งรุ่นที่มีการเปิดตัวคือ MSX125SF โฉมใหม่ ที่มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Standard ราคาแนะนำ 70,940 บาท และ รุ่น ABS with G-Sensor ราคาแนะนำ 78,480 บาท

อีกค่ายที่ไม่ยอมแพ้อย่าง“ซูซูกิ” ก็ส่งรถ 2 แบบ 2 สไตล์ทั้งบิ๊กไบค์ KATANA ราคา 5.69 แสนบาท ที่มาพร้อมแคมเปญ กิฟต์เวาเชอร์ มูลค่า 25,000 บาท หรือเลือกประกันภัยชั้น 1 ฟรี ค่าจดทะเบียน พ.ร.บ. พร้อม KATANA PHOTOBOOK จากประเทศญี่ปุ่น และ Suzuki Big Bike Roadside Assistance

อีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวคือ เรดเดอร์ อาร์ 150 ใหม่ ราคา 69,900 บาท รับประกันอุปกรณ์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 30,000 กม. และการันตี 5 ปี ในส่วนอุปกรณ์ระบบหัวฉีด, กล่องควบคุม ECM, เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจน, เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณภูมิเครื่องยนต์ และชุดเรือนลิ้นเร่งและเซ็นเซอร์ภายในเรือนลิ้นเร่ง และยังสามารถ เช็กระยะฟรี 7 ระยะ

ด้านแบรนด์ที่เติบโตอยู่ค่ายเดียวอย่างเวสป้า สกู๊ตเตอร์สายคลาสสิก ในช่วงที่ผ่านมาส่งแคมเปญ 3 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น “เก่าแลกใหม่ (OLD TO NEW)” เพียงนำรถสกู๊ตเตอร์หรือรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใด ยี่ห้อใดก็ได้ มาแลกซื้อรถเวสป้า LX และ PRIMAVERA รับพิเศษมูลค่าการประเมินราคาเก่าให้สูงขึ้น ตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือจะเลือกรับ“ขี่ชิลๆ ฟรี 2 เดือน (SAVE 2 MONTHS)” ในรุ่น LX และ PRIMAVERA ฟรีค่างวด 2 งวดรวมไปถึง “ฟรีบัตรนํ้ามัน PTT มูลค่าสูงสุด 3,000 บาท (GET A GIFT CARD)” และบริการส่งรถเวสป้าฟรีถึงบ้าน หรือดีลเลอร์บางรายแถมประกันโควิด-19 ให้อีกด้วย