มิตซูบิชิ ไทรทัน สี่ประตู ขับสองยกสูง โฉมใหม่ All new Mitsubishi Triton ที่ประเดิมทำตลาดในไทยเป็นประเทศแรกของโลก โดยช่วงแรกเปิดขาย 8 รุ่นย่อย 2 ตัวถัง ก่อนจะทยอยเปิดตัวให้ครบไลน์อัพกว่า 20 รุ่นย่อย (ฟูลไลน์อัพต้นปี 2567)
ปัจจุบัน ไทรทัน โมเดลเชนจ์ มีขายเฉพาะตัวถังซิงเกิลแค็บ กับ ดับเบิลแค็บ นะครับ ภายใต้เครื่องยนต์บล็อกเดียวคือ ดีเซล 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 184 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และธรรมดา 6 สปีด ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และขับเคลื่อนสี่ล้อ
ขณะที่ตัวถังดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ยังมีเฉพาะเกียร์ธรรมดา และขายในราคา 1.016 ล้านบาท ดังนั้น รุ่นที่ราคาสูงสุดตอนนี้คือ ดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อนสองล้อ ยกสูง Plus เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เกรด Ultra ราคา 1.027 ล้านบาท
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ไม่รอช้าที่จะนำรุ่นย่อยนี้ มาให้สื่อมวลชนได้ทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพ-สระบุรี (ส่วนตัวท็อปที่น่าจะได้เห็นกันปลายปี คือ ดับเบิลแค็บ ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ Athlete ออพชันเต็ม พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า คาดราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท)
ปิกอัพเจเนอเรชันที่ 6 ของมิตซูบิชิ ที่ใช้ชื่อในตลาดโลกว่า L200 จะใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกไปทั่วโลก และยังถูกส่งกลับไปขายที่ญี่ปุ่นในช่วงต้นปีหน้า อีกด้วย
ไทรทัน ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่โครงสร้าง แชสซีส์ ขุมพลัง เกียร์ ช่วงล่าง โดยความท้าท้ายคือ จะเข้ามาทวงอันดับสามตลาดปิกอัพไทย จากฟอร์ด เรนเจอร์ (เปิดตัวต้นปี 2565) ได้หรือไม่
ด้วยแชสซีส์ใหม่ หน้าตัดใหญ่ขึ้น คานขวางยาวกว่าเดิม เช่นเดียวกับความยาวหัวจรดท้ายเพิ่มขึ้น 65 มม. และความสามารถทางวัสดุศาสตร์ มิตซูบิชิ เปิดเผยว่าเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ถูกนำมาใช้ในสัดส่วนมากขึ้น ทำให้ได้เฟรมที่แข็งแกร่งขึ้น แต่นํ้าหนักเบาลงเมื่อเทียบกับรุ่นเก่า
ส่วนช่วงล่างหน้า ทั้งปีกนก โช้คอัพใหญ่ขึ้น และมีช่วงชักมากขึ้น 20 มม. ส่วนแหนบด้านหลังถ้าเป็นรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ยกสูง จะเหลือแค่ 3 ชั้น จากรุ่นเดิมมี 5 ชั้น วางเหลือเพลา พร้อมโช้คอัพไขว้
ด้านตัวรถใหญ่ขึ้นทุกมิติ ถ้าเป็นตัวถังดับเบิลแค็บ ยาว 5,319 มม.(+16 มม.) กว้าง 1,865 มม.(+50 มม.) ระยะฐานล้อ 3,130 มม.(+130 มม.)
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร ใหม่ รหัส 4N16 รีดกำลังด้วยเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250-2,500 รอบต่อนาที ซึ่งในอนาคตเครื่องบล็อกนี้ จะมีทั้งเทอร์โบเดี่ยว (ซิงเกิลแค็บ 2WD) และเทอร์โบคู่กำลัง 204 (มากับรุ่น Athlete)
เมื่อนำมาประกบกับระบบส่งกำลังใหม่ แบบอัตโนมัติ 6 สปีดของ Aisin ตอบสนองการใช้งานได้กระฉับกระเฉง (การทดสอบนั่งกันไป 3 คน ไม่มีโหลดด้านท้าย)
รถปลดปล่อยพลังได้เนียนต่อเนื่อง ยิ่งความเร็วปลายไหลได้ยาวๆ เร่งแรง แซงทันใจ สอดคล้องกับช่วงล่างที่นุ่มกว่าเดิมชัดเจน และในภาพรวมของตัวถังดับเบิลแค็บ ขับสองยกสูง ระบบกันสะเทือนไม่เป็นรองคู่แข่งในตลาดแม้แต่รายเดียว จังหวะขึ้น-ลง คอสะพาน รองรับการยุบและการเด้งคืนของตัวถังได้อย่างมั่นคง พร้อมให้ผู้ขับเหยียบคันเร่ง ส่งไปได้อย่างมั่นใจ
ด้านอัตราบริโภคนํ้ามันจากการขับบนถนนสายเอเชียและมิตรภาพ ระหว่างกรุงเทพไปสระบุรี ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด แต่มีการทดสอบโดยการเร่งแซง เข่นคันเร่งใช้ความเร็วสูงอยู่หลายครั้ง ยังเห็นอัตรา บริโภคนํ้ามัน 12-13 กม./ลิตร โดยความเร็ว 120 กม./ชม. ที่เกียร์สูงสุด รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 1,900 รอบต่อนาที ครับ
ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมของเพื่อนนักข่าวท่านหนึ่งที่ทดสอบคนละคันกับผม แอบกระซิบว่าทำความเร็วสูงสุดไหลไปได้เกิน 180 กม./ชม.นิดๆ และรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 3,500 รอบต่อนาที
รวบรัดตัดความ...All new Mitsubishi Triton ส่วนตัวผมยังไม่โดนใจเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก แต่หลังจากลองขับแล้ว ต้องชื่นชมในหลายๆ จุด (ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยตา จึง ต้องลองขับ) ช่วงล่างพัฒนาขึ้นจนรู้สึกได้ เครื่องยนต์ เกียร์ เดินเรียบ เฉียบขาด ที่ สำคัญการนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังไม่ขี้เหร่ และอาจจะดีกว่ารถคู่แข่งหลายรุ่นในราคาใกล้เคียงด้วยครับ
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ by กรกิต กสิคุณ 13/08/2023 [2375 Views]
|